หลังจากที่ นาโปลี เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ เจนัว ไปอย่างสุดมัน 2-1 ในเกมกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หนึ่งในประเด็นที่กลายเป็นหัวข้อพูดถึงมากที่สุดไม่ใช่เพียงชัยชนะของทีม แต่คือการที่ เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมกเกอร์ชาวเบลเยียม ถูกจับให้นั่งเป็นตัวสำรองในเกมนี้ตั้งแต่เริ่มต้น ทั้งที่เขาเป็นนักเตะตัวหลักและมีบทบาทสำคัญอย่างมากในทีมของนาโปลีช่วงหลายเกมที่ผ่านมา
แฟนบอลและนักวิเคราะห์ต่างตั้งคำถามทันทีว่าทำไมผู้จัดการทีมอย่าง ฟรานเชสโก้ คัลโซน่า ถึงตัดสินใจไม่ส่งเดอ บรอยน์ลงสนามเป็น 11 ตัวจริงในเกมสำคัญเช่นนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเจนัวถือเป็นคู่แข่งที่เล่นเกมรับเหนียวแน่น และการมีเพลย์เมกเกอร์ระดับโลกในสนามย่อมช่วยเพิ่มโอกาสในการเจาะแนวรับของคู่แข่งได้มากกว่า
หลังจบเกม คัลโซน่าได้ออกมาให้สัมภาษณ์อย่างละเอียดเกี่ยวกับการตัดสินใจครั้งนี้ โดยยืนยันว่าการให้เดอ บรอยน์ออกสตาร์ตเป็นตัวสำรองไม่ได้เกิดจากปัญหาบาดเจ็บ หรือความไม่พอใจใด ๆ แต่เป็นการวางแผนทางแท็กติกอย่างรอบคอบ “ผมรู้ว่าทุกคนแปลกใจ แต่ทุกอย่างมีเหตุผล” คัลโซน่ากล่าว “เดอ บรอยน์เป็นผู้เล่นสำคัญของเรา แต่เขาลงเล่นต่อเนื่องหลายเกมในช่วงที่ผ่านมา และเราต้องบริหารพลังงานของเขาให้ดี เพราะเรายังมีโปรแกรมหนักรออยู่อีกหลายแมตช์ในสัปดาห์หน้า”
คำอธิบายของกุนซือชาวอิตาเลียนมีน้ำหนักไม่น้อย เพราะนาโปลีเพิ่งผ่านเกมใหญ่กับอินเตอร์ มิลาน และยูเวนตุสมาแบบต่อเนื่อง ซึ่งในแต่ละเกมเดอ บรอยน์ลงสนามเต็มเวลาเกือบทั้งหมด ทั้งในลีกและฟุตบอลยุโรป ความเหนื่อยล้าเริ่มสะสม และเพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากการใช้งานหนักเกินไป คัลโซน่าจึงเลือกพักเขาไว้ในเกมกับเจนัว แม้ว่าจะต้องเผชิญเสียงวิจารณ์จากแฟนบอลบางส่วนที่มองว่าเป็นการตัดสินใจเสี่ยงก็ตาม
ในช่วงแรกของเกม นาโปลี ดูเหมือนจะขาดความสร้างสรรค์ในแดนกลางอย่างชัดเจน การครองบอลยังทำได้ดีตามสไตล์ทีม แต่การเจาะแนวรับของเจนัวยังไม่เฉียบคมเหมือนเวลาที่เดอ บรอยน์อยู่ในสนาม การขาดหายไปของเขาทำให้การต่อบอลในพื้นที่สุดท้ายขาดความแม่นยำ และจังหวะการเข้าทำดูช้ากว่าปกติ อย่างไรก็ตาม คัลโซน่ามีแผนสำรองอยู่ในใจ
นาโปลีเลือกใช้ระบบ 4-3-3 ที่ให้ ปิโอเตอร์ ซีลินสกี้ รับหน้าที่เป็นเพลย์เมกเกอร์แทน โดยมี ควารัตส์เคเลีย และ โลซาโน่ เล่นริมเส้น ขณะที่แดนหน้าวาง วิคเตอร์ โอซิมเฮน เป็นตัวจบสกอร์ แต่แผนดังกล่าวต้องใช้เวลาปรับจังหวะเพราะนักเตะหลายคนยังไม่คุ้นกับการเล่นโดยไม่มีเดอ บรอยน์เป็นศูนย์กลางเกมรุก

ช่วงครึ่งแรก เกมดำเนินไปอย่างอึดอัด เจนัวตั้งรับลึกและอาศัยจังหวะสวนกลับที่เฉียบคม นาโปลีมีโอกาสจบสกอร์หลายครั้งแต่ยังขาดความแม่นยำ จนกระทั่งทีมเยือนเป็นฝ่ายขึ้นนำก่อนจากลูกยิงไกลในนาทีที่ 38 สร้างความกดดันให้แฟนบอลในสนามซาน เปาโลอย่างมาก คัลโซน่าจึงเริ่มมองไปที่ม้านั่งสำรอง และทุกสายตาก็จับจ้องไปที่เดอ บรอยน์
เมื่อเข้าสู่ครึ่งหลัง นาทีที่ 60 เดอ บรอยน์ถูกส่งลงสนามแทนซีลินสกี้ เสียงปรบมือดังลั่นทั่วสนามจากแฟนบอลเจ้าถิ่นที่เฝ้ารอให้เขาลงมาพลิกสถานการณ์ และเพียงไม่กี่นาทีหลังลงสนาม บทบาทของเขาก็เห็นได้อย่างชัดเจน การจ่ายบอลทะลุช่องของเขาสร้างความปั่นป่วนให้แนวรับของเจนัวหลายครั้ง จนสุดท้ายในนาทีที่ 72 เขาเป็นคนวางบอลยาวอย่างแม่นยำให้ควารัตส์เคเลียหลุดเข้าไปยิงตีเสมอ 1-1
จากนั้นเกมของนาโปลีเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง การครองบอลมีจังหวะและความมั่นใจมากขึ้น ก่อนที่ในช่วงท้ายเกมเดอ บรอยน์จะโชว์การจ่ายบอลระดับมาสเตอร์คลาสอีกครั้งให้โอซิมเฮนยิงประตูชัยในนาทีที่ 87 ส่งผลให้ทีมคว้าชัยเหนือเจนัวไปได้อย่างสุดมัน
หลังจบเกม คัลโซน่าถูกถามอีกครั้งถึงการตัดสินใจให้เดอ บรอยน์เป็นตัวสำรองตั้งแต่ต้น เขาตอบด้วยรอยยิ้มว่า “บางครั้งคุณต้องกล้าเสี่ยง ผมรู้ว่าแฟนบอลอยากเห็นเขาลงตั้งแต่เริ่มเกม แต่ผมมองภาพใหญ่ เรามีเกมกับโรม่ารออยู่ในอีกไม่กี่วัน และเขาเพิ่งผ่านช่วงเรียกความฟิตหลังบาดเจ็บยาว การให้เขาพักครึ่งหนึ่งของเกมจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด”
คำพูดของกุนซือชาวอิตาเลียนได้รับเสียงสนับสนุนจากสโมสร โดยผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาของนาโปลีออกมาอธิบายเพิ่มเติมว่า การบริหารร่างกายนักเตะระดับโลกอย่างเดอ บรอยน์ต้องใช้ความระมัดระวัง “เขาเพิ่งกลับมาจากอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อเมื่อต้นฤดูกาล และเราต้องการให้เขากลับมาสู่สภาพสมบูรณ์ในระยะยาว ไม่ใช่เพียงเกมเดียว”
แฟนบอลบางส่วนเข้าใจและยอมรับเหตุผลนี้ โดยเฉพาะเมื่อเห็นผลลัพธ์ที่ออกมา เพราะแม้เดอ บรอยน์จะเริ่มเกมบนม้านั่ง แต่สุดท้ายเขาก็ลงมาช่วยทีมคว้าชัยได้สำเร็จ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพของเจ้าตัวอย่างแท้จริง เขาไม่ได้แสดงท่าทีไม่พอใจเมื่อรู้ว่าจะไม่ได้ออกสตาร์ต แต่กลับใช้โอกาสที่ได้ในครึ่งหลังพิสูจน์ให้เห็นว่าคุณภาพของเขายังคงอยู่ในระดับสูงสุด
สื่ออิตาลีอย่าง La Gazzetta dello Sport รายงานว่า เดอ บรอยน์เข้าใจการตัดสินใจของโค้ชเป็นอย่างดี เขาพูดคุยกับคัลโซน่าก่อนเกมและเห็นด้วยกับแผนการพัก เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูอย่างเต็มที่ “ผมเชื่อมั่นในแผนของโค้ช” เขากล่าวหลังจบเกม “สิ่งสำคัญคือทีมต้องชนะ ไม่สำคัญว่าใครจะลงเล่นก่อนหรือหลัง ผมพร้อมช่วยทีมในทุกทางที่ทำได้”
คำพูดของเดอ บรอยน์สะท้อนถึงจิตใจของนักเตะระดับโลกที่เข้าใจการบริหารทีมในยุคใหม่ ซึ่งต้องอาศัยการวางแผนทั้งในแง่แท็กติกและสภาพร่างกายอย่างรอบด้าน การที่เขายอมรับและสนับสนุนการตัดสินใจของโค้ชถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับนาโปลีในระยะยาว
ในมุมของนักวิเคราะห์จากแพลตฟอร์ม คาสิโน ufabet เว็บตรง ครบทุกเกมเดิมพัน ซึ่งติดตามฟุตบอลยุโรปอย่างใกล้ชิด ให้ความเห็นว่า การบริหารนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์ในทีมใหญ่ถือเป็นศาสตร์ที่ละเอียดอ่อนมาก เพราะความสมดุลระหว่าง “ผลประโยชน์ของทีม” และ “ความรู้สึกของนักเตะ” ต้องเดินคู่กัน หากคัลโซน่าตัดสินใจผิดเพียงเล็กน้อย อาจทำให้เกิดปัญหาในห้องแต่งตัวได้ แต่จากเหตุการณ์นี้ เขาแสดงให้เห็นถึงความชาญฉลาดและการสื่อสารที่ดีจนทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น
ผลของการตัดสินใจดังกล่าวยังสะท้อนให้เห็นถึงความลึกของขุมกำลังนาโปลีในฤดูกาลนี้ พวกเขามีตัวเลือกมากมายในแดนกลาง ทั้งซีลินสกี้, ลอบอตก้า และเอลมาส ที่สามารถหมุนเวียนลงเล่นได้โดยไม่ทำให้คุณภาพของทีมลดลง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการลุ้นแชมป์ระยะยาว
ในแง่ของแท็กติก เกมนี้ยังแสดงให้เห็นว่าคัลโซน่าพยายามปรับรูปแบบการเล่นของนาโปลีให้ยืดหยุ่นมากขึ้น โดยไม่ได้พึ่งพาเดอ บรอยน์เพียงคนเดียว แม้เขาจะเป็นตัวหลักของทีม แต่การสร้างระบบที่สามารถทำงานได้แม้ไม่มีเขาในสนามคือสิ่งที่จำเป็นสำหรับทีมที่ต้องลงเล่นหลายรายการตลอดฤดูกาล
นักวิเคราะห์ของ Sky Italia ยังชื่นชมการจัดการของนาโปลีในครั้งนี้ โดยกล่าวว่า “สิ่งที่นาโปลีทำไม่ใช่แค่การโรเตชั่นนักเตะ แต่เป็นการวางหมากอย่างมีกลยุทธ์ พวกเขาเลือกเกมที่จะใช้เดอ บรอยน์อย่างเหมาะสม เพื่อให้เขามีความสดและพร้อมสำหรับเกมสำคัญในยุโรป นี่คือการบริหารทีมระดับมืออาชีพอย่างแท้จริง”
แฟนบอลนาโปลีเองก็รู้ดีว่าการมีเดอ บรอยน์ในทีมคือความหรูหรา เขาไม่เพียงเป็นเพลย์เมกเกอร์ที่ดีที่สุดคนหนึ่งของโลก แต่ยังเป็นผู้นำในสนามที่สามารถยกระดับการเล่นของเพื่อนร่วมทีมได้ทุกครั้งที่ลงสนาม การที่สโมสรตัดสินใจดูแลเขาอย่างระมัดระวังจึงถือเป็นการลงทุนในระยะยาว
คัลโซน่ากล่าวเสริมว่า “เดอ บรอยน์เป็นคนที่รู้จักฟัง เขาเข้าใจฟุตบอลในระดับลึก และรู้ว่าร่างกายตัวเองต้องการอะไร เรามีการพูดคุยกันเสมอเกี่ยวกับสภาพความพร้อมของเขา และเขาก็ให้ความร่วมมืออย่างดีเยี่ยม” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างนักเตะกับโค้ช ซึ่งเป็นหัวใจของทีมที่ประสบความสำเร็จ
ในแง่ของผลการแข่งขัน นาโปลีสามารถเก็บสามแต้มสำคัญได้ และยังคงอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์อย่างมั่นคง โดยแฟนบอลจำนวนมากมองว่าเกมนี้เป็นตัวอย่างของ “ชัยชนะที่มาจากการวางแผนอย่างละเอียด” เพราะแม้จะเริ่มต้นไม่ดี แต่การบริหารจังหวะของโค้ชและการเปลี่ยนตัวที่เหมาะสมในเวลาที่ใช่ ทำให้ทีมสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้
นักวิเคราะห์จาก ufabet บอลชุดออนไลน์ ราคาดีที่สุด มองว่าการที่นาโปลีสามารถรักษาผลงานได้ดีแม้โรเตชั่นผู้เล่นสำคัญ เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับแฟนบอลที่วางเดิมพันในระยะยาว เพราะทีมที่มีระบบชัดเจนและขุมกำลังลึกย่อมมีโอกาสทำผลงานได้สม่ำเสมอในทุกการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นเกมลีกหรือฟุตบอลยุโรป